สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ และบทความนี้คือ 5 สาเหตุ ของการเสียชีวิต จากการดูดไขมันครับ
จากข่าวที่มีผู้เสียชีวิตจากการดูดไขมัน ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตด้วยครับ ตั้งแต่ผมเรียนจบเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นแทบทุกปีและเป็นข่าวที่คนจำนวนมากให้ความสนใจคือเรื่องการเสียชีวิตจากการทำศัลยกรรมความงาม ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ การเสียชีวิตจากการดูดไขมันก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และสิ่งที่หลายๆคนสงสัยก็คือ อะไร เป็นสาเหตุ
ตั้งแต่ผมทำ channel นี้ขึ้นมา ผมยังไม่เคยพูดถึงเรื่องการดูดไขมันเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่าผมดูดไขมันเป็นด้วยหรือ ขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจนะครับว่าศัลยแพทย์ตกแต่งทุกคนได้รับการฝึกอบรมเรื่องของการดูดไขมันและทำเป็นทุกคนครับ และผมก็ดูดไขมันมาเป็นจำนวนมากเช่นกันครับ
สิ่งที่ผมจะพูดในบทความนี้อ้างอิงมาจากงานวิจัยหนึ่ง ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตจากการดูดไขมัน งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PRS global open ปี 2017 โดย Dr.Lazaro เรื่อง Strategies for Reducing Fatal Complications in Liposuction โดยทำการรวบรวมงานวิจัยทั้งหมดที่เกี่ยวกับการดูดไขมันและภาวะแทรกซ้อนตั้งแต่ปี 1973 จนถึงปี 2017
สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตจากการดูดไขมันมีอยู่หลายสาเหตุครับ ผมจะขอพูดถึง 5 สาเหตุ ที่พบบ่อยที่สุดครับ แต่ก่อนที่จะไปดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้าง สิ่งที่ผมอยากเน้นย้ำให้เข้าใจคือ การดูดไขมัน ไม่ได้ทำเพื่อลดความอ้วน การลดความอ้วนที่ดีที่สุดคือการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ข้อบ่งชี้ของการดูดไขมันคือการกำจัดไขมันส่วนเกินในบางตำแหน่งในคนที่ไม่อ้วนเท่านั้นครับ การดูดไขมันเพื่อลดความอ้วนเป็นการกระทำที่ผิดข้อบ่งชี้และนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนครับ
สาเหตุที่ 1 คือ Pulmonary Embolism หรือมักเรียกย่อๆกันว่า PE Pulmonary Embolism คือภาวะที่มีลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดแดงในปอด เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากการดูดไขมันที่สูงที่สุด แล้วลิ่มเลือดที่อุดตันมันมาจากไหน ลิ่มเลือดนี้มักเกิดขึ้นที่หลอดเลือดดำในขาแล้วไหลไปที่ปอด โดยมีต้นเหตุ 3 อย่างคือ เลือดดำไม่ไหลเวียน มีแผลภายในหลอดเลือด และภาวะที่เลือดแข็งตัวง่าย
กลไกการเกิดเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยากผมขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ เอาง่ายๆคือ 2 สาเหตุแรก คือ เลือดดำไม่ไหลเวียน มีแผลภายในหลอดเลือด เกิดจากการที่คนไข้ดมยาสลบและอยู่ในท่านอนราบเป็นเวลานาน ส่วนสาเหตุที่ 3 คือเลือดแข็งตัวง่ายเป็นภาวะที่มีอยู่ในตัวคนไข้บางคนเองอยู่แล้ว การเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดแดงในปอด เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ถ้าคนไข้ได้รับการประเมินก่อนผ่าตัด ผ่าตัดในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่นานเกินไป และถ้าจำเป็นต้องผ่าตัดเป็นเวลานานจะต้องมีการป้องกันทั้งการให้ยาและการใช้อุปกรณ์ปั๊มลมบริเวณขาเพื่อให้เกิดการไหลเวียนของเลือดครับ
สาเหตุที่ 2 คือ อวัยวะในช่องท้องทะลุ ไม่ว่าจะเป็นลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ หรือม้าม ปัจจัยที่ทำให้อวัยวะในช่องท้องทะลุอาจเกิดจากผนังหน้าท้องอ่อนแอ มีไส้เลื่อนที่หน้าท้อง หรือ เทคนิคการผ่าตัดไม่ถูกต้องทำให้หัวดูดไขมันพลาดไปแทงอวัยวะภายในทำให้ทะลุตามมา
ในระหว่างทำการดูดไขมันแพทย์ที่ทำอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีการพลาดไปแทงอวัยวะในช่องท้อง ดังนั้นการสังเกตุอาการหลังการดูดไขมันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อาการที่ต้องระวังคือ ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียน และการบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ ถ้าสงสัยว่าจะเกิดการทะลุจะต้องรีบตรวจเพิ่มเติม เช่น x-ray หรือ CT scan และต้องรีบผ่าตัดซ่อมแซมอวัยวะนั้น ๆ
สาเหตุที่ 3 คือ ปัญหาจากการให้สารน้ำระหว่างดูดไขมัน ในการทำผ่าตัดทุกอย่างจะมีการเสียเลือด เสียน้ำออกจากร่างกายครับ การดูดไขมันก็เช่นกัน จึงจำเป็นต้องมีการให้สารน้ำทดแทนทางเส้นเลือด ในการดูดไขมันจะมีความแตกต่างจากการผ่าตัดอื่นๆ ตรงที่จะมีการฉีดสารน้ำที่ผสมยาชาและadrenaline ปริมาณมากในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการเสียเลือด บางส่วนของสารน้ำนั้นจะถูกดูดซึมเข้าเส้นเลือดได้ ทำให้ต้องคำนวณการให้สารน้ำทางเส้นเลือดอย่างระมัดระวังไม่เหมือนการผ่าตัดอื่น ๆ ถ้าให้น้อยเกินไปร่างกายจะขาดน้ำทำให้ shock ได้ แต่ถ้าให้มากเกินไปจะทำให้น้ำท่วมปอดได้
สาเหตุที่ 4 คือ การได้รับยาชาเกินขนาด จากที่ได้บอกไปว่าการดูดไขมันจะต้องมีการฉีดสารน้ำที่มีส่วนผสมของยาชา ถ้าร่างกายได้รับยาชามากเกินไปก็จะมีผลข้างเคียงตามมา ตั้งแต่น้อย ๆเช่น ชารอบปาก หรือรุนแรงขึ้นจน หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชัก และหัวใจหยุดเต้นได้ อาการของการได้รับยาชาเกินขนาดอาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที เนื่องจากยาชาจะค่อยๆถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายชั่วโมงหลังจากดูดไขมันเสร็จ การสังเกตอาการหลังดูดไขมันจึงมีความสำคัญมาก จากงานวิจัยนี้ได้แนะนำให้สังเกตอาการในสถานพยาบาล 15-24 ชั่วโมง หลังการดูดไขมันครับ
สาเหตุที่ 5 คือ Fat embolism เรื่อง Fat embolism จะคล้าย ๆ กับ Pulmonary Embolism แต่จะเป็นกรดไขมันที่ไหลไปอุดตันหลอดเลือดแทนที่จะเป็นลิ่มเลือด กลไกการเกิดภาวะนี้มี 2 อย่าง แต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก สรุปง่าย ๆ คือ มีโอกาสเกิดภาวะนี้ในคนที่ดูดไขมันเกิน 900 ซีซี และมีโอกาสเกิดภาวะนี้จากการที่เส้นเลือดได้รับการบาดเจ็บและมีกรดไขมันไหลเข้าไปในเส้นเลือด
และนี่คือสาเหตุที่ทำให้คนไข้เสียชีวิตจากการดูดไขมัน แต่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดเท่านั้นนะครับ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย สาเหตุที่ผมได้พูดมาทั้งหมดสามารถป้องกันได้ ถ้าได้รับการตรวจประเมินก่อนการดูดไขมันที่ละเอียดพอ มีการใช้ยาและเครื่องมือในการป้องกันในกรณีที่ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนาน และที่สำคัญคือการสังเกตอาการหลังการดูดไขมันที่ใกล้ชิดและนานมากพอครับ
ถ้ามีปัญหาเรื่องของการทำศัลยกรรมทุก ๆเรื่อง สนใจอยากทำศัลยกรรม อยากได้คำปรึกษา ส่งรูปมาให้ผมช่วยประเมินใน line official ที่ @dr.hope ได้นะครับ